"DSP ยาพิษวงการเครื่องเสียงรถ"

โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

เมื่อ30ปีที่แล้ว ไม่ค่อยมีใครพูดถึงการใช้เครื่อง DSP( Digital Signal Processing)กับวงการเครื่องเสียงรถยนต์ อาจเพราะยังมีราคาสูงมาก ยี่ห้อดังเครื่องหนึ่งเคยมีราคาถึงสองแสนกว่าบาท เช่น Alpine, Pioneer, Sony  ตัวเครื่องใหญ่พอๆกับ เพาเวอร์แอมป์รถ 400W !
 อีกสาเหตุที่มันไม่ฮิต เพราะเล่นยาก ช่างรุ่นใหม่ไม่คุ้นเคย 
 สาเหตุสุดท้ายน่าจะเพราะเซียนเครื่องเสียงรถที่มาจากเครื่องเสียงบ้านมาก่อน รู้อยู่แก่ใจว่า เสียงผ่านDSP   เน่าสนิท จึงไม่อยากแนะนำน้องๆ ในวงการ

อย่างไรก็ตาม ช่างติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์รุ่นใหม่(รวมทั้งรุ่นเก่าที่ยังเหลือรอด)และนักวิจารณ์เครื่องเสียงรุ่นใหม่ มักฟังกันไม่เป็น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะจูนเสียงเป็นถูกต้อง เป็นธรรมชาติ จึงอาศัยเรียนลัด โชว์ออฟวางท่ากร่าง ว่าจูนด้วยระบบ DSP เพื่อวางฟอร์มเขื่องกับเจ้าของรถที่ไม่รู้เรื่อง หลงคิดว่า DSPเป็น " จอกของพระเจ้า หรือ อัศวินม้าขาว " ที่ช่วยให้แต่งเสียงได้สมใจนึก ช่างพวกนี้จึงมักง่าย ติดตั้งแบบไม่ต้องพิถีพิถันอะไร กะไปแก้เสียงอีกทีหลังสุดด้วย DSP 
ผลคือ เสียงอาจครบจริง แต่ไม่ไพเราะ ไม่น่าฟัง น่าเบื่อ ขาดเสน่ห์
ฟังพอเข้าท่ากับบางเพลงที่จำกัด ส่วนใหญ่เจ้าของชุดไม่แฮปปี้ แต่ติไม่เป็น พูดไม่ออก บอกไม่ถูก 

DSP ผู้ร้ายในคราบนักบุญ

วงจร DSP ดีๆระดับใช้ในห้องบันทึกเสียงอาชีพ เฉพาะแผงวงจรเสียงอย่างเดียวเป็นแสนบาท DSPรถมักมีสาระพัดหน้าที่ให้เลือกใช้งาน ทั้งระบบ EQ( Equalizer) , ระบบหน่วงเสียง ( Time Delay), ระบบ ตัดแบ่งความถี่เสียง. ( Electronic Cross Over) , ปกติ Digital EQ เสียงดีๆพอจะเป็นผู้เป็นคน ราคา 300,000บาทขี้นไป ตัวหน่วงเสียง 200,000บาท    ตัวจัดแบ่งความถี่เสียงDigital 2-3 แสนบาท สรุป DSP ดีๆ ก็ต้องมีร่วม ล้านบาทแล้ว แล้วคุณคิดว่า พวก DSP รถราคาไม่กี่พันบาทหรืออย่างเก่ง 10,000 บาท มันจะมีคุณภาพกระป๋องกองกอยขนาดไหน มีแต่ห่วย ห่วยมาก  ,ห่วยที่สุด สรุปว่า ไม่ควรใช้เลยด้วยซ้ำ ร้านไหน ช่างไหนฝากความเป็นความตาย ฝีมือ ไว้กับDSP  ร้านนั้น ช่างนั้น ก็คงห่วยแตกตาม DSP ชุดที่ติดตั้งก็คงออกทะเลเข้าป่าไปตาม DSP
เสียงอุบาทว์จากDSP
  1.เสียงด้านแห้ง
  2.เสียงขาดความ ฉ่ำกังวานพริ้ว
  3เสียงไร้อารมณ์
  4.ตัวตนชิ้นดนตรี นักร้อง ไร้ทรง แบน ไร้มิติ 3 D
   5.นักร้องชาย นักร้องหญิง ต่างคนต่างเสียงคล้ายกันไปหมด 
     6. เครื่องดนตรียี่ห้อแพงถูกเสียงเหมือนกันไปหมด
      7. เวทีเสียงตื้นไม่ไล่ตื้นลึก
( เสียงอุบาทว์จากแอมป์ class D ก็ หมือนเสียง DSP ครบทุกข้อ
   แถมอีกข้อ
 เสียงทุ้มเบลอไม่กระชับ ติดกันเป็น พรืด หึ่ง หอน ไร้รายละเอียด- ขาดช่องไฟระหว่างตัวโน๊ตทุ้ม.   ( DSP ที่มีมากับลำโพงกระเป๋าหิ้ว BlueTooth ทั้งหลาย ก็นรกแตก ทั้งจาก DSP และ จาก แอมป์ class D) 

ปัจจุบัน มีเครื่อง DSP ติดรถ และ DSP/ AMP ติดรถ ระดับราคา2-3พันบาท ถึง 4-5หมื่นบาท นับสิบๆรุ่น ไม่น่าเชื่อว่า วงการเครื่องเสียงรถจะตกต่ำได้หืขนาดนี้ การนำ DSP และDSP AMP เข้าสู่วงการเครื่องเสียงรถ คือการฆ่าตัวตายดีๆนี่เอง สเน่ห์ของเสียง ความดื่มด่ำความมีชีวิต แห่ง " เสียงดนตรี" หายหมด วงการเครื่องเสียงรถยนต์ ไม่ใช่ที่ที่คุณจะพบกับคำว่า " ความไพเราะ" อีกต่อไป .